หากพูดถึง เครื่องทำลมแห้ง หรือ AIR DRYER หลายคนอาจจะไม่รู้จักว่าเครื่องทำลมแห้ง คืออะไร เครื่องทำลมแห้ง มีกี่ประเภท ทำหน้าที่อะไร และใช้หลักการทำงานอย่างไร รวมถึงเครื่องทำลมแห้ง ราคาเท่าไหร่ มียี่ห้อไหนน่าใช้บ้าง รวมถึงจะเลือกซื้ออย่างไรจึงจะเหมาะสม บทความนี้เราเลยรวบรวมเอาข้อมูลของเจ้าอุปกรณ์ที่เรียกว่า AIR DRYERAIR DRYER นี้มาให้คุณได้รู้จักกันมากขึ้น
1. เครื่องทำลมแห้ง คืออะไร? ใช้หลักการทำงานแบบไหน
เครื่องทำลมแห้ง เป็นอุปกรณ์ที่นำมาใช้กับตัว Air Compressor ของเครื่องปั๊มลม ซึ่งประโยชน์ของเจ้าเครื่องนี้ก็คือจะช่วยลดระดับความชื้นและปริมาณของน้ำในระบบลม ผลที่ได้ก็คือทำให้ลมที่เราจะนำมาใช้นั้นบริสุทธิ์และสามารถนำใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับหลักการทำงานของ เครื่องทำลมแห้ง ก็คือ ปกติแล้ว ตัวกรองลมที่เราใช้งานกันอยู่โดยทั่วไปที่มากับปั๊มลมนั้น จะไม่สามารถกรองความชื้นหรือว่าน้ำในระบบลมได้ จึงต้องอาศัยตัวช่วยอย่างเจ้า เครื่องทำลมแห้งนี้ ในการนำความชื้นและน้ำออกจากระบบลมเพื่อให้ได้ลมที่บริสุทธิ์ปราศจากความชื้น เมื่อนำไปใช้งานก็จะไม่ส่งผลเสียต่ออุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องนั่นเอง
1. เครื่องทำลมแห้ง มีกี่ประเภท
เครื่องทำลมแห้ง มีกี่ประเภท
เครื่องทำลมแห้ง เหมาะสำหรับปั๊มลมแบบลูกสูบ
เราได้ทราบถึงหลักการทำงานของเครื่อง เครื่องทำลมแห้ง กันไปแล้วว่าหน้าที่หลักก็คือช่วยเพิ่มความบริสุทธิ์ให้กับลมที่เราจะนำมาใช้ ซึ่งหากจะแบ่งประเภทของ AIR DRYER นั้น สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทด้วยกันคือ
– Refrigerated Air Dryer เป็นเครื่องทำลมแห้งที่ใช้น้ำยาทำความเย็น มี Dew Point (จุดทำความเย็น) อยู่ที่ราว 2-10 องศาเซลเซียส โดยสามารถกำจัดน้ำออกจากลมได้ประมาณ 96 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้ำยาทำความเย็นที่ใส่มาจะทำให้ความชื้นเปลี่ยนเป็นหยดน้ำก่อนที่จะระบายออกไปจากระบบลม โดย Refrigerated Air Dryer นั้นจะเหมาะกับการใช้งานลมที่แห้งแต่ความสะอาดไม่ต้องถึงขั้นบริสุทธิ์มากนัก ราคาไม่สูงมาก การดูแลรักษาไม่ยุ่งยากจนเกินไป
– Desiccant Air Dryer เป็นเครื่องทำลมแห้งที่ใช้เม็ดสารดูดความชื้น มี Dew Point (จุดทำความเย็น) อยู่ที่ราว -20 ถึง -70 องศาเซลเซียส จุดเด่นก็คือตัวเม็ดสารดูดความชื้นจะช่วยให้ได้ลมที่แห้งและบริสุทธิ์มากเป็นพิเศษ มักมีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมยาหรืออาหารที่ต้องการความสะอาดสูง อย่างไรก็ตามเนื่องจาก Desiccant Air Dryer นั้นมักมีการติดตั้งระบบระบายความร้อนมาในตัวทำให้หากเทียบกันแล้วค่อนข้างสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าแบบแรกราว 15-20 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน
2. วิธีเลือกเครื่องทำลมแห้ง
จะเลือกซื้ออย่างไรจึงจะเหมาะสมในการใช้งาน ซึ่งหลักการเบื้องต้นที่สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกได้ก็คือ
– พิจารณาจากคุณสมบัติของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นชิ้นของตัวเครื่องที่มีความแข็งแรงทนทาน งานประกอบแน่นหนา สามารถทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานได้แบบที่เครื่องไม่ร้อนจนเกินไป สามารถให้ลมที่บริสุทธิ์ รวมถึงทนต่อการใช้งานในที่ที่มีอุณหภูมิสูงๆ ได้ดี
– เลือกขนาดของเครื่องทำลมแห้งให้เหมาะสมกับเครื่องปั๊มลม ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือหากใหญ่เกินไปก็อาจจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แต่ถ้าเล็กเกินไปก็อาจทำให้เครื่องต้องทำงานหนักรวมถึงได้ลมที่ไม่บริสุทธิ์ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของอุตสาหกรรมด้วย เช่นหากเป็นอุตสาหกรรมอาหารก็คงควรเลือกแบบ Desiccant Air Dryer เป็นต้น
– เลือกซื้อเครื่องทำลมแห้งจากยี่ห้อ และร้านค้าที่วางใจได้ เพราะจะช่วยให้เราอุ่นใจได้ระดับหนึ่งว่าจะได้สินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ยาวนานคุ้มค่าเงิน ซึ่งหากเป็นยี่ห้อหรือร้านที่ได้มาตรฐานมักจะมาพร้อมกับการบริการหลังการขายที่ช่วยให้เราไม่ต้องมาคอยปวดหัวกับการซ่อมแซมหรือหาอะไหล่มาเปลี่ยนในกรณีที่เกิดการชำรุดระหว่างการใช้งาน