เลือกถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอย่างไรไม่ให้พัง

เลือกถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอย่างไรไม่ให้พัง อ่านก่อนดีกว่าปวดหัวทีหลังนะจ๊ะ

ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งทั้งทีก็ต้องถ่ายให้ดีให้ปังสิ เจ้าบ่าวพร้อม เจ้าสาวพร้อม แต่ช่างภาพล่ะจ๊ะหาได้หรือยัง … แต่บอกก่อนเลยนะ ว่าหาได้แล้วก็อย่าเพิ่งวางใจไป เพราะเราเห็นได้บ่อยๆ จากกรณีที่บ่าวสาวออกมาบ่นลงโซเชียลถึงเหตุการณ์ ช่างภาพพรีเวดดิ้ง ถ่ายภาพออกมาแล้วพังแทนที่จะปังเสียนี่

แต่ไม่ต้องเครียดกันค่ะ เพราะทุกปัญหามีทางออกนะจ๊ะ เพียงแต่เราต้องรู้วิธีแก้เท่านั้นเอง เลยขอนำเทคนิคการเลือกถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง อย่างไรให้ปังมาแนะนำค่ะ

1. ดูจากผลงานเป็นหลัก

ผลงานที่ว่าคือทั้งผลงานภาพถ่ายและชื่อเสียงของภาพนะจ๊ะ ลองดูว่าชื่นชอบแนวภาพถ่ายไหม เพราะช่างภาพที่ถ่ายสวยก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแนวภาพที่เราชอบ และแนวภาพที่เราไม่ชอบก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่สวย (ยังไม่งงกันเนอะ) เพราะฉะนั้นอันดับแรกว่าที่บ่าวสาวต้องหาสไตล์ภาพพรีเวดดิ้งที่ตัวเองชอบให้ได้ก่อน แล้วค่อยติดต่อหาช่างภาพคนนั้นๆ โดยดูจากชื่อเสียง และการรีวิวของลูกค้านั่นเองค่ะ และที่สำคัญต้องเลือกช่างภาพที่มีสไตล์ตรงกับภาพถ่ายที่เราอยากได้ด้วยนะคะ

2. ราคา

เราไม่ได้มาหลอกให้ว่าที่บ่าวสาวต้องเลือกช่างภาพจากราคานะจ๊ะ แต่แค่ต้องลองดูให้สมเหตุสมผล ว่าถูกไปหรือแพงไปไหม โดยอาจจะตัดสินจากผลงานเป็นหลัก อย่าเพิ่งเอาราคามาตัดสิน และขอเน้นยำเลยว่า ของถูกและดีมันไม่มีในโลกนะจ๊ะ หรือถ้ามีก็แค่ 0.01% เท่านั้น เพราะฉะนั้นบางครั้งการลงทุนก็เป็นเรื่องจำเป็น เพราะภาพถ่ายนั้นเป็นสิ่งที่จะอยู่กับว่าที่บ่าวสาวไปตลอด แล้วคุณจะยอมเอาภาพถ่ายครั้งสำคัญในชีวิตไปแลก เราว่ามันไม่คุ้มกันเลยน้าาา

3. เลือกช่างภาพตามท้องถิ่น

สำหรับกรณีที่บ่าวสาวจะออกเดินทางไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งนอกสถานที่ ลองหาช่างภาพตามแต่ละท้องถิ่นดู เพราะว่าช่างภาพจะรู้มุมเด็ดๆ ของแต่ละสถานที่นั้นๆ และรู้ว่าจะต้องปฎิบัติตัวอย่าไร เตรียมอะไรเข้าไปถ่ายได้บ้าง และแน่นอนว่าภาพก็จะออกมาเป๊ะปัง ส่วนในเรื่องของผลพลอยได้ ว่าที่บ่าวสาวก็อาจจะได้ราคาที่ถูกลงเพราะช่างภาพไม่ต้องเดินทางค่ะ

4. อุปกรณ์

อันนี้ลองสังเกตดูเนอะ ว่าช่างภาพมีอุปกรณ์พร้อมไหม ไม่ว่าจะไฟเสริม แผ่นรีเฟล็ก กล้อง หรือเลนส์ต่างๆ ยิ่งถ้าหากออกนอกสถานที่ด้วยแล้วทุกอย่างต้องพร้อม และช่างภาพที่เป็นมืออาชีพจะมีลูกทีมและอุปกรณ์ที่ครบครัน ดังนั้นลองสังเกตก่อน อ่านรีวิวเยอะๆ และลองเข้าไปส่องตามเพจ ตามไอจีดูกันก่อนเนอะ

5. ฟีดแบคจากลูกค้า

โลกเราพัฒนาไปไกลมาก ลองอ่านรีวิวจากเฟซบุ๊ก เว็บบล็อกต่างๆ ให้เยอะ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่ามองแต่พอร์ทที่สวยงามเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งงานดีจริง แต่อาจใช้เวลาส่งงานลูกค้านาน 2-3เดือน แบบนี้ก็ไม่ไหวเนอะ เพราะอาจจะรอจนไม่อยากดูไปเลย!!